ยูเออีเปิดสิทธิพิเศษใหม่ GREEN VISA ดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2564 ที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวเชิงนโยบายที่สำคัญ คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้ประกาศยุทธศาสตร์เศรษฐกิจใหม่เพื่อมุ่งพัฒนาประเทศสู่อนาคตภายใต้แผน The Principles of the 50 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Projects of the 50 ยุทธศาสตร์ชาติ 50 ปี อย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายนำอุตสาหกรรมการผลิตของยูเออีเข้าสู่เวทีโลก รวมถึงผลักดันให้ประเทศเป็นศูนย์กลางในนวัตกรรมและแรงงานทักษะ ทางด้านอุตสาหกรรมขั้นสูงในระดับโลก พัฒนาอุตสาหกรรมผลิตสินค้านวัตกรรมแห่งอนาคต ให้กลายเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน
จากความท้าทายใหม่ในโลกปัจจุบันที่แม้ว่าเทคโนโลยีจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือช่วยอย่างแพร่หลาย แต่กำลังคนหรือแรงงานกลับยังขาดแคลนและมีความต้องการสูง โดยเฉพาะการขาดแคลนแรงงานทักษะสูงได้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ผู้นำขององค์กรธุรกิจในยูเออีและทั่วโลกต่างใช้กลยุทธ์ในการสร้าง รักษาและค้นหาแรงงานกลุ่มนี้เพื่อขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจให้เติบโต
รัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ ของยูเออี ได้ร่วมกันประกาศแผนปฏิบัติการเชิงรุก 13 แผนใหม่ เพื่อฃ่วยให้ประเทศเริ่มดำเนินยุทธศาสตร์ชาติ 50 ปี ครอบคลุมประเด็น ต่างๆ ที่สำคัญดังต่อไปนี้
1) ออกวีซ่า Green visa ซึ่งเป็นวีซ่าอยู่อาศัยประเภทใหม่ให้กับชาวต่างชาติที่มีทักษะสูง (Highly skilled) นักลงทุน นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ ตลอดจนนักเรียนที่มีผลคะแนนโดดเด่น ซึ่งผู้ที่ถือ Green visa และยังสามารถเป็นผู้อุปถัมภ์ (sponsorship) ในการพาพ่อแม่และลูกที่อายุไม่เกิน 25 ปีเข้าประเทศได้ด้วย
2) อนุญาตกลุ่มคนมืออาชีพที่มีอาชีพรับจ้างอิสระ (Freelance visa) สามารถเป็นผู้อุปถัมภ์ (sponsorship) ตัวเองได้ อาทิ กลุ่มอาชีพ นักออกแบบ Graphic design นักออกแบบ Application นักเขียนโปรแกรม และ Virtual assistance เป็นต้น
3) Invest.ae: เป็นพอร์ทัลอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจรที่รวบรวมหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและหน่วยงานทางเศรษฐกิจ (economic entities) ซึ่งเป็นองค์กรที่ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 14 แห่ง เพื่อนำเสนอโอกาสการลงทุนทั่วยูเออีรวมถึงการตั้งธุรกิจและเปิดบัญชีธนาคาร
4) พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สรรหานักเขียนโค้ด (coders) เพิ่มให้ได้เดือนละ 3,000 คน หรือ 100,000 คน ภายใน 1 ปี เพื่อทำงานเป็นบุคลากรการป้อนคำสั่งด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ อํานวยความสะดวกในการจัดตั้งบริษัทโปรแกรมคอมพิวเตอร์
5) รัฐบาลกลางออกกฎหมาย UAE Data Law ออกมาคุ้มครองสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เป็นกฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ กลไก หรือมาตรการกำกับดูแลเกี่ยวกับการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่รวมถึงการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลขึ้น รวมถึงการควบคุมไม่ให้องค์กรนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม
6) Project 5BN: การช่วยเหลือทางด้านเงินทุนโดย Emirates Development Bank จัดสรรเงิน 5 พันล้านเดอร์แฮม (18.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ช่วยพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการชาวยูเออีในการสร้างสรรค์และพัฒนาสินค้านวัตกรรม ใหม่ๆ เพื่อการกระจายความหลากหลายทางทางเศรษฐกิจ
7) ขับเคลื่อนเทคโนโลยีด้วยเงินอุดหนุน 18.3 พันล้านเหรียญสหรัฯ จัดสรรเพื่อสนับสนุนการนําเทคโนโลยีชั้นสูงไปใช้ในอุตสาหกรรมภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า
8) โปรแกรม 10×10 โดยตั้งเป้าหมายการส่งออกขยายตัวขึ้นปีละประมาณ 10% ไปยังตลาดโลก 10 แห่ง ได้แก่ จีน อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ อิตาลี รัสเซีย โปแลนด์ ลักเซมเบอร์ก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินโดนีเซีย
9) เพื่อให้สินค้าผลิตในประเทศเข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ สนับสนุนให้หน่วยงานจัดซื้อของรัฐใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ TOR ต้องมีสินค้าในประเทศร้อยละ 42 คาดว่าจะสามารถเพิ่มซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นเป็น 7,300 ราย และเพิ่มมูลค่าการจัดซื้อจาก 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีก 4 ปีข้างหน้า
10) เตรียมจัดการประชุมสุดยอดการลงทุนของยูเออี (Emirates Investment Summit) ภายในไตรมาสแรกของปี 2565 ที่จะเชื่อมต่อเงินลงทุนกับภาครัฐและเอกชน รวมทั้งจะช่วยสร้างโอกาสในการลงทุนจากต่างประเทศมูลค่า 150 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้ายูเออีภายใน 9 ปีข้างหน้า
11) เพื่อมีเครื่อข่ายและส่วนร่วมในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ เตรียมจัดตั้งและขยายจำนวนบริษัทในยูเออีให้ได้ 500 แห่ง เพื่อรองรับด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
12) ทำข้อตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจกับตลาดเป้าหมาย 8 แห่งทั่วโลก ให้สามารถขยายมูลค่าได้ปีละ 11 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
13) เตรียมจัดงาน PyCon MEA เป็นกลุ่มการประชุมทั่วโลก สัมนาเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมประมาณช่วงหลังปี 2565 มีวัตถุประสงค์ เพื่อเชื่อมต่อนักพัฒนาและเครือข่าย แบ่งปันประสบการณ์ระหว่าง Coders กับหน่วยงานรัฐบาล ภาคเอกชน
10 เหตุผลหลักทำไมควรลงทุนในยูเออี
1) เศรษฐกิจมั่นคง สะดวกในการเริ่มธุรกิจ ความได้เปรียบที่ตั้งประเทศและมีเงินกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ SWF ขนาดใหญ่
2) ยูเออีเป็นประเทศได้รับการจัดอันดับต้นๆจาก 100 ประเทศทั่วโลกในการพัฒนาแบบยั่งยืน
3) มีสายการบินแห่งชาติบินเชื่อมกว่า 250 เมือง และมีเที่ยวบินขนส่งสินค้าประมาณ 400 เมืองทั่วโลก
4) มีระบบขนส่งสินค้าทางอากาศ ทะเลและทางบก สะดวก คุณภาพมาตรฐานระดับสากล
5) มีเขตอุตสาหกรรมพิเศษ (Free Zones) ในประเทศมากกว่า 40 แห่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันพร้อมสำหรับการลงทุนระยะยาว
6) รัฐบาลอนุญาตให้ชาวต่างเป็นเข้ากิจการถือหุ้นได้ 100% และไม่ต้องมีหุ้นส่วนเป็นชาวท้องถิ่น ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดสำหรับบางประเภทธุรกิจ
7) ไม่เก็บภาษีเงินได้ ยกเว้นกฎหมายภาษีอากรถูกนำไปใช้เฉพาะธุรกิจธนาคารต่างประเทศ น้ำมันและก๊าซ
8) ภาษีนำเข้าเกือบทุกสินค้าร้อยละ 5
9) ออกวีซ่า Golden Visa อายุ 10 ปี ให้นักลงทุน เจ้าของกิจการ และแรงงานทักษะสูงอื่นๆ
10) มีชาวต่างชาติมากกว่า 190 เชื้อชาติอาศัยในประเทศ
ความเห็นของ สคต.ดูไบ
รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตสินค้านวัตกรรมสร้างสรรค์ในประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยเห็นว่าเป็นธุรกิจแห่งอนาคต ที่สามารถเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเร่งพัฒนาบุคลากรรองรับการขยายตัวของธุรกิจ รวมทั้งสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพเต็มกำลัง เช่น ในภาคการเกษตร รัฐบาลดูไบสร้างเขตเศรษฐกิจแห่งใหม่ (Economic Zone) โครงการเรียกว่า Food Tech Valley เพื่อเป็นศูนย์กลางผลิตอาหารที่สะอาดและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในอนาคต เป็นศูนย์บ่มเพาะสําหรับนักวิจัย ผู้ประกอบการสตาร์ท และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบที่มีศักยภาพในการวางแผนอนาคตของอุตสาหกรรมอาหาร
แม้ว่ายูเออีจะมีการแข่งขันสูง แต่ยังมีโอกาสมากมายให้นักลงทุนต่างชาติ การเป็นศูนย์กลางทางการเงินในภูมิภาค ทำให้มีชาวต่างชาติย้ายเข้ามาทำงาน อีกทั้งการปฎิรูปกฎหมายต่างๆของยูเออี ยังเอื้ออำนวยต่อการลงทุน หากนักลงทุนไทยศึกษาวิเคราะห์ลักษณะตลาดการค้าในยูเออีและวางแผนการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ ย่อมเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการค้าและการลงทุนอย่างแน่นอน
Source: the National newspaper
