สถานการณ์การค้าต่างประเทศของสหราชอาณาจักร
จากรายงานของสำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจการคลัง ประจำสหราชอาณาจักรและยุโรป ระบุว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรเริ่มชะลอตัวลง โดยอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเดือนกรกฎาคมขยายตัวที่ร้อยละ 0.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2564
ปัญหาการขาดแคลนแรงงานทั้งจากการแยกตัวจากสหภาพยุโรปและผลจากการแพร่ระบาดของโควิท 19 เริ่มส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อห่วงโซ่การผลิต และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดแคลนคนขับรถขนส่งสินค้า ส่งผลให้การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงประสบปัญหาการขาดแคลนและมีการตื่นตระหนกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังส่งผลให้สินค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารเริ่มมีสต็อคลดลง จึงนับเป็นประเด็นหลักที่ส่งกระทบต่อการค้าและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร
จากข้อมูลของ HM Revenue & Customs : UK Overseas Trade in Goods Statistics June 2021 ในเดือนกรกฎาคม 2564 สหราชอาณาจักรมียอดส่งออก 27,100 ล้านปอนด์ (1.2 ล้านล้านบาท) ลดลงร้อยละ 7.4 จากเดือนมิถุนายน 2564 ขณะที่สหราชอาณาจักรนำเข้า 42,200 ล้านปอนด์ (1.9 ล้านล้านบาท) ในเดือนกรกฎาคม 2564 ลดลงร้อยละ 5.5 จากเดือนมิถุนายน 2564
สหราชอาณาจักรขาดดุลการค้า 15,100 ล้านปอนด์ (6.7 แสนล้านบาท) ในเดือนกรกฎาคม 2564 ขณะที่ในไตรมาสที่สองของปีนี้ (เมษายน – มิถุนายน 2564) สหราชอาณาจักรส่งออก 85,100 ล้านปอนด์ (3.8 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เมือเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2563 นำเข้ามูลค่า 123,000 ล้านปอนด์ (5.5 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2563
ตลาดส่งออกหลักของสหราชอาณาจักรได้แก่ สหรัฐอเมริกา (มูลค่าในเดือนกรกฎาคม 2564 3,790 ล้านปอนด์) เยอรมนี (2,423 ล้านปอนด์) เนเธอร์แลนด์ (1,999 ล้านปอนด์) ฝรั่งเศส (1,751 ล้านปอนด์) สาธารณรัฐไอร์แลนด์ (1,7051 ล้านปอนด์) ตามลำดับ
สินค้าส่งออก 5 อันดับแรกของสหราชอาณาจักร ได้แก่ เครื่องจักร (มูลค่าในเดือนกรกฎาคม 2564 4,615 ล้านปอนด์) ยานพาหนะ (2,328 ล้านปอนด์) โลหะมีค่า (2,185 ล้านปอนด์) เชื้อเพลิง (2,040 ล้านปอนด์) และเครื่องมือไฟฟ้า (1,641 ล้านปอนด์)
ตลาดนำเข้าหลักของสหราชอาณาจักรได้แก่ จีน (มูลค่าในเดือนกรกฎาคม 2564 4,797 ล้านปอนด์) เยอรมนี (4,678 ล้านปอนด์) สหรัฐอเมริกา (3,506 ล้านปอนด์) เนเธอร์แลนด์ (2,562 ล้านปอนด์) นอร์เวย์ (1,988 ล้านปอนด์) ตามลำดับ
สินค้านำเข้า 5 อันดับแรกของสหราชอาณาจักร ได้แก่ โลหะมีค่า(มูลค่าในเดือนกรกฎาคม 2564 5,078 ล้านปอนด์) เครื่องจักร (4,816 ล้านปอนด์) เชื้อเพลิง (4,018 ล้านปอนด์) ยานพาหนะ (3,644 ล้านปอนด์) และเครื่องมือไฟฟ้า (3,615 ล้านปอนด์)
สถิติส่งออกรายสินค้าของสหราชอาณาจักรในเดือน กรกฎาคม 2564
สถิตินำเข้ารายสินค้าของสหราชอาณาจักรในเดือน กรกฎาคม 2564
สถานการณ์การค้าระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร
ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.- ส.ค. 2564) การค้าไทย – สหราชอาณาจักรมีมูลค่าการค้ารวม 3,695.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นไทยส่งออกมูลค่า 2,338.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 15.7 ในขณะที่ไทยนำเข้าจากสหราชอาณาจักรมูลค่า 1,357.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 8.4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ไทยได้ดุลการค้าจำนวน 981.4 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในเดือนสิงหาคม 2564 ไทยส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรมูลค่ารวม 244.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากช่วงเดียวกันในปี 2563 ร้อยละ 9.5 สินค้าส่งออกจากไทยที่สำคัญ ได้แก่
(1) รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ มูลค่า 27.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.5
(2) อัญมณีและเครื่องประดับ มูลค่า 27.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 8.4
(3) ไก่แปรรูป มูลค่า 24.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 31.4
(4) ผลิตภัณฑ์ยาง มูลค่า 10.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 53.5
(5) เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ มูลค่า 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.4
ในเดือนสิงหาคม 2564 ไทยนำเข้าจากสหราชอาณาจักรรวมทั้งสิ้น 321.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันในปี 2563 ถึงร้อยละ 136.6 สินค้านำเข้ามายังไทยที่สำคัญ ได้แก่
(1) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ มูลค่า 95.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 639.0
(2) น้ำมันดิบ มูลค่า 85.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
(3) แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ มูลค่า 29.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7
(4) เครื่องจักรไฟฟ้า มูลค่า 17.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 148.8
(5) ยาและเครื่องเวชภัณฑ์ มูลค่า 9.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.0
