รายงานสถานการณ์การค้าสหรัฐอเมริกา ณ นครลอสแอนเจลิส เดือนเมษายน 2565

ผลการดำเนินโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรมอาหารไทยเพื่อเจาะตลาดเกษตรอินทรีย์สหรัฐอเมริกาในงาน NPEW 2022

1. ภาพรวมงาน NPEW 2022

1.1 Natural Product Expo เป็นงานแสดงสินค้าที่รวบรวมสินค้าจากธรรมชาติและ Organics ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยจัดขึ้นปีละ ๒ ครั้ง คือ Natural Products Expo West จัดที่ Anaheim, California ช่วงเดือนมีนาคม และ Natural Products Expo East จัดที่ Philadelphia, Pennsylvania ช่วงปลายเดือนกันยายน – ตุลาคม

1.2 NPEW 2022 เป็นงานแสดงสินค้าแบบ in person ในรอบ 2 ปี (วิกฤต COVID ทำให้ผู้จัดงานยกเลิกการจัดงานในปี 2020 และจัดแบบ Vitual ในปี 2021) มีบริษัทเข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 2,700 บริษัททั่โลก บริษัทส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมงานเป็นบริษัทในสหรัฐฯ โดยมีคูหาต่างประเทศที่มาเข้าร่วมงาน อาทิ เกาหลีใต้ บราซิล สเปน ไอร์แลนด์ จำนวนผู้เข้าชมงาน (Visitors) มากกว่า 57,000 ราย ลดลงกว่าปี 2018 (ปีสุดท้ายที่จัดงานแบu in person) ร้อยละ 29 สินค้าที่นำมาจัดแสดงภายในงานจะเป็นสินค้าเทรนด์ใหม่ที่เจาะกลุ่มผู้รักสุขภาพ เป็นสินค้าที่น่าจับตามองและมีแนโน้มที่จะได้รับความนิยมในวงกว้าง สามารถกล่าวได้ว่าสินค้าในงาน Natural Products Expo จะเป็น trend setter ของสินค้าสุขภาพในปีต่อมา

1.3 สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ Plant-based Food จากวัตถุดิบหลายประเภท อาทิ ถั่วหลากชนิด ทั้งถั่วเหลือง, ถั่วเขียว, pea, chickpea, lenti, fava, navy เป็นต้น พบได้หลากหลายรูปแบบทั้งเนื้อสัตว์ (ไก่ ปลา วัว หมู ไข่ อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ขนมขบเคี้ยว รวมถึงเครื่องดื่มสุขภาพในรูปแบบต่างๆ (ประมาณกว่าร้อยละ 80 ของบริษัทที่จัดแสดง) รองลงมาคือสินค้า Vegan และ Superfood โดยในปีนี้ Monkfruit (หล่อฮั้งก้วย) ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างเห็นได้ชัด และมีหลายบริษัทที่นำสินค้าจาก Monkfruit มาใช้เป็นส่วนผสมให้ความหวานแทนน้ำตาลมาจัดแสดงภายในงาน รวมถึงบรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติขณะที่สินค้าอาหารที่ทำจาก Cauliflower (ดอกกะหล่ำ และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ (BD ที่ได้รับความนิยมในงาน NPEW 2019 มีให้เห็นบางตา

1.4 กระเเสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน (Sustainability) มาแรงในปีนี้ ผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานในสหรัฐฯ ให้ความสำคัญมาก ตั้งแต่การก่อสร้างตกแต่งคูหา เน้นใช้ผลิตภัณฑ์ที่ Eco-Fiendly สามารถนำกลับไปใช้ช้ำภายใต้หลักการ 3 R Reduce, Reuse, Recycle รวมถึงรณรงค์ให้บริจาคอุปกรณ์ สิ่งของ สินค้าตัวอย่างที่ไมใช้แล้วให้กับองค์กรสาธารณกุศล โดยผู้งานเป็นผู้ประสานงานและดำเนินการให้

1.5 วารสารของผู้จัดงาน (New Hope Network’s Nutrition Business Journal ระบุว่ายอดขายในอุตสาหกรรมสินค้าจากธรรมชาติและ Organics (natural and organic industry) ในปี 2021 มีมูลค่า 274,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มจากปีก่อนหน้าร้อยละ 7.7 ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่า 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2024 และจะมีมูลค่าสูงถึง 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2030 เป็นผลจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากวิกฤต COVID

2. การเข้าร่วมงานของกรมฯ

สคต. ณ นครลอสแอนเจลิส ร่วมกับ สพต.2 นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานรวม 12 บริษัทประกอบด้วยสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพ 10 บริษัท และสินค้าสุขภาพและความงาม 6 บริษัท ผลการเข้าร่วมงานสามารถ

2.1 สินค้าไทยที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานและผู้นำเข้าคือขนมขบเคี้ยวที่ทำจากมะพร้าว เส้น และแผ่นแป้งที่ทำจากข้าว ขนมขบเคี้ยวที่ทำจากข้าว ชอสปรุงรส Plant-based meat อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน สบู่และครีมบำรุงผิวที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ สินค้าที่ได้รับตรา ‘USDA Organic” จะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ

2.2 เพื่อให้การเข้าร่วมงานของผู้ประกอบการไทยได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้าในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสื่อมวลชน จึงได้ประชาสัมพันธ์คูหาประเทศและกิจกรรม Happy Hours (เบียร์สิงห์และขนมขบเคี้ยวของบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ) ทาง email และส่ง Press Release และตัวอย่างสินค้าไปยังสื่อมวลชน ทั้งนี้ มีสื่อมวลชน Influencers แวะชมและติดต่อขอรับตัวอย่างสินค้าเพิ่มเติมรวมกว่า 20 ราย Press Release ได้เผยแพร่ในเว็บไซต์ Food Executive Industry ซึ่งเป็นเว็บไชต์ชั้นนำในอุตสาหกรรมอาหาร

2.3 ตลอดระยะเวลา วันของการจัดงาน มีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าสนใจสอบถามรายละเอียดสินค้าไทยรวมกว่า 300 ราย

2.4 มูลค่าคาดการณ์ซื้อ-ขายภายใน 1 ปี ประมาณ 174 ล้านบาท

2.5 สรุปผลการประเมินผู้เข้าร่วมงาน พบว่า ผู้ประกอบการทั้ง 12 บริษัท พอใจกับการเข้าร่วมงานโดยประเด็นที่ผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่พึงพอใจ คือ การอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่กรม (ร้อยละ 98) สถานที่จัดงาน/ทำเลที่ตั้งคูหา (ร้อยละ 95.75) และความสะดวกในการสมัครเข้าร่วมงาน (ร้อยละ 93.75) ขณะที่ประเด็นที่ผู้เข้าร่วมงานพึงพอใจน้อยที่สุดคือรูปแบบคูหา (ร้อยละ 66.75) เนื่องจากปีนี้ สคต. ได้รับจัดสรรงบประมาณค่าตกแต่งคูหาจำกัด (ลดลงร้อยละ 72)

3. การเข้าร่วมงานของบริษัทผู้ผลิตสินค้าไทย

นอกเหนือจากคูหากรมฯ ยังมีผู้ประกอบการไทยที่มาเข้าร่วมงานเองอีก 10 บริษัท อาทิ Thai Coco,Buono (ไอศกรีมมาการองรสชาติต่างๆ ทั้งชาไทย มะม่วง ทุเรียน), K.R.S Spicy Food (ซอสปรุงรส), 3 Seasons Fruit Industry (ผลไม้อบแห้ง), sappe & AI Coco (น้ำมะพร้าว) รวมถึงมีผู้ประกอบการรายย่อยที่มาออกคูหากับกระทรวงเกศเกษตรและสหกรณ์อีก 5 บริษัท และผู้ประกอบการไทยที่จัดตั้งบริษัทในสหรัฐฯ/ใช้ Agent ต่งประเทศ มาร่วมออกงาน ได้แก่ Taste Nirvana (น้ำมะพร้าวและเครื่องดื่ม), Taokaenoi, Dang (ขนมขบเคี้ยวทำจากข้าวและมะพร้าว), Mekhala (เครื่องแกง organics)

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

OMD KM

FREE
VIEW