รายงานสถานการณ์การค้าสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ณ กรุงมะนิลา เดือนธันวาคม 2565

เงินเฟ้อฟิลิปปินส์ พ.ย. 65 พุ่งร้อยละ 8 สูงสุดในรอบ 14 ปี

ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ กล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งแต่อัตราเงินเฟ้อยังไม่สามารถควบคุมไม่ได้และฟิลิปปินส์จำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้น การผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้ายังคงเป็นความคิดที่ดี ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ แต่เพื่อให้สามารถรักษาอัตราเงินเฟ้อของประเทศให้ลดต่ำลง ในขณะที่นาย Arsenio M. Balisacan เลขาธิการ NEDA กล่าวว่ารัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการอุดหนุนตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาสินค้าจำเป็นพื้นฐานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภาคส่วนที่เปราะบางและกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อย

ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของ สคต.

ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่กำลังเผชิญกับปัญหาอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อทั่วไปล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่พุ่งขึ้นถึงร้อยละ 8 แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี โดยสาเหตุหลักมาจากราคาสินค้าอาหารพื้นฐานหลายหมวดหมู่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผลทางการเกษตร ทั้งนี้ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวอาจส่งผลให้อุปสงค์ในฟิลิปปินส์ชะลอตัวลงได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรติดตามสถานการณ์ตลาดฟิลิปปินส์อย่างใกล้ชิด แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์จะฟื้นตัวดีขึ้น แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญด้านอัตราเงินเฟ้อที่อาจส่งผลกระทบต่อใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ในระยะต่อไป รวมถึงการส่งออกสินค้าไทยมายังตลาดฟิลิปปินส์ตามไปด้วย นอกจากนี้ ประเทศไทยเองก็ประสบกับภาวะเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกัน ทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าอาจเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้นำเข้าอาจชะลอการสั่งซื้อสินค้าได้

OMD KM

FREE
VIEW