ศรีลังกาปรับขึ้นภาษีเงินได้ บีบนักธุรกิจบินออกนอกประเทศ
ศรีลังกาประกาศมาตรการล่าสุดปรับขึ้นอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล จากเดิมร้อยละ 24 เป็นร้อยละ 30 และปรับลดฐานรายได้ขั้นต่ำบุคคลธรรมดาที่ไม่ต้องชำระภาษีหรือยกเว้นภาษีให้ (Tax Free Threshold) จากเดิม 3 ล้านรูปีต่อปี ลดลงเหลือ 1.2 ล้านรูปีต่อปี โดยจะถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ถึง ร้อยละ 36 ทั้งนี้ การปรับขึ้นภาษีดังกล่าวนับเป็นการยกเลิกนโยบายลดภาษีของอดีตประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ซึ่งบังคับใช้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้วิกฤติเศรษฐกิจของศรีลังการุนแรงขึ้นด้วย โดยการเสนอปรับขึ้นภาษีในครั้งนี้อาจบังคับให้นักธุรกิจนักลงทุนเดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากเป็นการกีดกันการสร้างรายได้เพิ่มและขยายธุรกิจ ลดแรงจูงใจสําหรับการลงทุนและการสร้างงานในประเทศ
ข้อคิดเห็นของ สคต.
การเสนอปรับขึ้นอัตราภาษี โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่ศรีลังกากำลังประสบกับภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง จะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน และรายได้หลังหักภาษี (disposable income) ของครอบครัวชนชั้นกลาง ทำให้ต้องปรับรูปแบบการบริโภคให้เหมาะสมกับรายได้ที่หดตัวลง และอาจสร้างปัญหาในการชําระหนี้ส่วนบุคคลด้วย โดยคาดการณ์ว่ามาตรการสร้างรายได้ของรัฐบาลจะทําให้การเติบโตของรายได้ลดลงและส่งผลเสียต่อประเทศในระยะกลางถึงระยะยาว