รายงานสถานการณ์การค้า บราซิล ณ นครเซาเปาโล เดือน สิงหาคม 2564

การค้าระหว่างประเทศของบราซิล รอบ 7 เดือนแรกปี 2564 (มกราคม-กรกฎาคม มูลค่า 278.71 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น 33.4%  การส่งออกมีมูลค่า 161.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 35.3%  ส่วนการนำเข้ามูลค่า 117.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 30.9% ดุลการค้าเกินดุล 44.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 48.6%

ในเดือนกรกฎาคม 2564 การค้าระหว่างประเทศของบราซิล มูลค่ารวม 43.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น 46.2%   การส่งออกมูลค่ารวม 25.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 37.5% และ การนำเข้า มูลค่ารวม 18.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 60.5% ดุลการค้าเกินดุล 7.40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพีมขึ้น 1.7%

การส่งออก

เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564  ส่งออกสินค้าเกษตรกรรมมูลค่า 36.50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐขยายตัว 22.9%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อุตสาหกรรมแร่ 45.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเติบโต 75.1% และอุตสาหกรรมการผลิต 78.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเติบโต 24.5%

  • สินค้าที่การส่งออกขยายตัวได้ดี ได้แก่ กาแฟสด (18.9%), ถั่วเหลือง (23.8%) และฝ้ายดิบ (39.3%) ในด้านการเกษตร;  แร่เหล็ก (124.8%), แร่ทองแดง (32.1%) และน้ำมันปิโตรเลียมดิบ (35.9%) ในอุตสาหกรรมสกัด; น้ำตาลและกากน้ำตาล (22.3%) ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์อื่นๆ (ยกเว้นธัญพืชที่ไม่บด) เนื้อสัตว์และอาหารจากสัตว์อื่นๆ (29.3%) และผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปแท่งโลหะและรูปแบบเบื้องต้นอื่นๆของเหล็กหรือเหล็กกล้า (68.6%) ในการผลิตอุตสาหกรรม.
  • ส่วนสินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ สัตว์มีชีวิต ไม่รวมปลาหรือกุ้ง (-52.1%) ข้าวเปลือก (-76.2%) และข้าวโพดดิบ ยกเว้นข้าวโพดหวาน (-3%) ในการเกษตร; ปุ๋ยดิบ (-12.7%), แร่และโลหะหนักอื่นเข้มข้น (-31.3%) และก๊าซธรรมชาติ (-99.9%) ในอุตสาหกรรมสกัด;     กระดาษและกระดาษแข็ง (-10.9%) ท่อและโพรไฟล์กลวง และส่วนควบของท่อ ทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า (-27.3%) มอเตอร์และเครื่องจักรที่ไม่ใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน (ยกเว้นมอเตอร์ลูกสูบและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า) (-42.3%) ในอุตสาหกรรมการผลิต

เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 ภาคเกษตรกรรม มูลค่ารวม 5.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 11.2% อุตสาหกรรมแร่ซึ่งสูงถึง 7.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 62.7 และอุตสาหกรรมการผลิต มูลค่า 13.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 37.7%

  • สินค้าที่การส่งออกขยายตัวได้ดี ได้แก่ ผักสดหรือแช่เย็น (72.2%) กาแฟไม่คั่ว (8.1%) และถั่วเหลือง (20.6%) ในภาคเกษตร  แร่เหล็ก (119.9%) แร่นิกเกิล (1,313.410.4%) และน้ำมันปิโตรเลียมดิบ (6.0%) ในอุตสาหกรรมแร่   รำถั่วเหลืองและอาหารสัตว์อื่นๆ (ยกเว้นธัญพืชที่ไม่บด) เนื้อสัตว์และอาหารสัตว์อื่นๆ (58.6%) น้ำมันเชื้อเพลิงปิโตรเลียม (ยกเว้นน้ำมันดิบ) (115.4%) และผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป แท่งโลหะ และรูปแบบเบื้องต้นอื่นๆ ของเหล็กหรือเหล็กกล้า (157.2%) ในอุตสาหกรรมการผลิต
  • ส่วนสินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ สัตว์ที่มีชีวิต ไม่รวมปลาหรือกุ้ง (-65.5%), ข้าวพร้อมแกลบ ข้าวเปลือก (-85 .5%) และข้าวโพด ยกเว้นข้าวโพดหวาน (-33.3%) ในสินค้าการเกษตร  สินแร่ทองแดง (-11.8%) และสินแร่และของเข้มข้นอื่นๆ (-52.3%) ในอุตสาหกรรมแร่   น้ำตาลและกากน้ำตาล (-6.7%), ยาสูบ(-29.4%) และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (-14.2%) ในอุตสาหกรรมการผลิต

การนำข้า

เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564  ภาคเกษตรมูลค่ารวม 2.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 25.9%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน   อุตสาหกรรมแร่ มูลค่าถึง 6.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐขยายตัว 44.3% และ อุตสาหกรรมการผลิต 106.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 29.8%

  • สินค้าที่นำเข้าขยายตัวสูง ได้แก่  ข้าวสาลีและข้าวไรย์(18.5%) ข้าวโพดที่ไม่ได้บด ยกเว้นข้าวโพดหวาน (178.7%) และถั่วเหลือง (136.3%) ในภาคเกษตรกรรม  ถ่านหิน แม้จะอยู่ในรูปผงแต่ไม่ได้จับตัวเป็นก้อน (18.9%), ปิโตรเลียมดิบ (21.3%) และก๊าซธรรมชาติ ทั้งที่เป็นของเหลวหรือไม่ก็ตาม (139.5%) ในอุตสาหกรรมแร่ น้ำมันเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม (ยกเว้นน้ำมันดิบ) (40.9%) ปุ๋ยหรือปุ๋ยเคมี (ยกเว้นปุ๋ยดิบ) (38.1%) และชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์เสริม (59.1%) ในอุตสาหกรรมการผลิต
  • สินค้าที่นำเข้าลดลง ได้แก่ ข้าวบาร์เลย์ (-31.5%) ผักสดหรือแช่เย็น (-26.4%) และผลไม้และถั่วที่ไม่เป็นน้ำมัน สดหรือแห้ง (-2% ) ด้านการเกษตร ปุ๋ยดิบ (ยกเว้นปุ๋ยสำเร็จ) (-9.2%) ในอุตสาหกรรมสารสกัด สิ่งทอ (-57.7%) สิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์วิศวกรรมโยธาและการก่อสร้าง และชิ้นส่วน (-53.6%) และแท่นชั่ง เรือ และโครงสร้างลอยน้ำอื่นๆ (-71.7%) ในอุตสาหกรรมการผลิต

เดือนกรกฎาคม 2564  การส่งออกภาคเกษตร 0.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การเติบโต 48.2% อุตสาหกรรมแร่  1.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเติบโต 163.2% และอุตสาหกรรมการผลิต 16.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็เติบโต 57.0%

  • สินค้าที่นำเข้าขยายตัวสูง ได้แก่ ปลาตายหรือปลาแช่เย็น (128.3%) ข้าวสาลีและข้าวไรย์ ที่ไม่ได้บด (34.2%) และข้าวโพดดิบ ยกเว้นข้าวโพดหวาน (469.0%) ใน เกษตรกรรม; ถ่านหิน แม้จะเป็นผงแต่ไม่ได้จับตัวเป็นก้อน (135.6%) ปิโตรเลียมดิบ (149.0%) และก๊าซธรรมชาติ ทำให้เป็นของเหลวหรือไม่ (254.0%) ในอุตสาหกรรมสกัด น้ำมันเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม (ยกเว้นน้ำมันดิบ) (124.6%) ปุ๋ยหรือปุ๋ยเคมี (ยกเว้นปุ๋ยดิบ) (66.2%) และชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์เสริม (143.3%) ในอุตสาหกรรมการผลิต
  • สินค้าที่นำเข้าลดลง ได้แก่ ผักสดหรือแช่เย็น (-11.0%),   ยาสูบดิบ (-66.5%)  ในด้านการเกษตร; ลิกไนต์ (-7.9%) ในอุตสาหกรรมสกัด; ยาฆ่าแมลง สารกำจัดหนู สารฆ่าเชื้อรา สารกำจัดวัชพืช สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช สารฆ่าเชื้อและอื่นๆ ที่คล้ายกัน (-9.5%) สิ่งทอ (-57.8%) และเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับใช้ในทางการแพทย์และศัลยกรรม ทันตกรรมหรือ สัตวแพทย์ (-37.6%) ในอุตสาหกรรมการผลิต

คู่ค้าสำคัญ

อาร์เจนตินา  การค้ารวมมกราคม/มิถุนายน 2564  คิดเป็นมูลค่า 12.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 49.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่งออกไปยังอาร์เจนตินาสูงถึง 6.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  เติบโตขึ้น 53.8% การนำเข้ามีมูลค่าถึง 6.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 44.7% บราซิลได้ดุลการค้า 0.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

การส่งออกไปอาร์เจนตินาในเดือนกรกฎาคม 2564 ขยายตัว 61.4% และมีมูลค่ารวม 1.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้าเพิ่มขึ้น 70.1% และมีมูลค่ารวม 0.91 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นดุลการค้ากับคู่ค้ารายนี้จึงเกินดุล 0.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และกระแสการค้าเพิ่มขึ้น 65.3% แตะที่ 2.00 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จีน ฮ่องกง และมาเก๊า   การค้ารวมในช่วงมกราคม – กรกฎาคม 2564 คิดเป็นมูลค่า 82.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 31.8% ยอดขายไปยังจีน ฮ่องกง และมาเก๊าสูงถึง 56.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้น 33.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  และ การนำเข้ามีมูลค่ารวม 25.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐขยายตัว 33.2% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 30.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

การส่งออกไปยังจีน ฮ่องกง และมาเก๊าในเดือนกรกฎาคม 2564 มูลค่ารวม 12.48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 28.0%  การนำเข้ามูลค่ารวม 3.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 50.6%  บราซิลได้ดุลการค้า 4.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สหรัฐอเมริกา  การค้ารวมเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 มูลค่า 35.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 25.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  การส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาสูงถึง 16.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้น 40.0% การนำเข้ามีมูลค่ารวม 19.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 15.4% บราซิลขาดดุล -3.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

การส่งออกไปสหรัฐอเมริกาในเดือนกรกฎาคม 2564 มูลค่ารวม 2.99 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 83.6% การนำเข้าสูงถึง 3.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 67.5% บราซิลขาดดุล -0.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สหภาพยุโรป   การค้ารวมเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564  มูลค่า 42.40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การส่งออกไปยังสหภาพยุโรป 21.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 27.9%  การนำเข้ามีมูลค่ารวม 21.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 24.7% ขาดดุล  -0.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปเดือนมิถุนายน 2564   มูลค่า  3.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 38.6% การนำเข้ามูลค่ารวม 3.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 39.6% เกินดุล 0.11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

————————————–

การค้าระหว่างประเทศของไทยและบราซิล 6 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม – มิถุนายน)

การค้าระหว่างประเทศของไทย – บราซิล มูลค่า 2,989.23 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนขยายตัว 41.06%  การส่งออกมูลค่ารวม 1,160.53 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 61.13% และการนำเข้ามูลค่ารวม 1,828.70 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 30.73%  ไทยขาดดุลการค้า      –668.17 ล้านเหรียญสหรัฐ

สินค้าไทยที่ส่งออกไปบราซิลที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางและผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรกล ยางพารา รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น เนื่องจากอุตสาหกรรมต่างๆเริ่มกลับมาดำเนินการเพิ่มขึ้นจากปีก่อน จึงจำเป็นต้องมีการนำเข้าวัตถุดิบที่สต็อกลดลงจากการลดการนำเข้าในปี 2563 สินค้าไทยที่นำเข้าจากบราซิลเพิ่มขึ้น ได้แก่ ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์เยื่อกระดาษ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นต้น

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซาเปาโล ขอเรียนดังนี้

  1.  บราซิลเป็นประเทศที่มีการผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญลำดับต้นของโลก สินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ถั่วเหลือง น้ำตาล กาแฟ ส้ม เนื้อสัตว์ต่างๆ ได้แก่ เนื้อวัว ไก่ และสุกร  สำหรับด้านอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น อุตสาหกรรมแร่ อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมอาหาร/เครื่องดื่ม อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น ดังนั้น การค้าระหว่างไทยกับบราซิล สินค้าหลักที่ไทยส่งออกมายังบราซิลจะเป็นสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ อุปกรณ์และส่วนประกอบรถยนต์ เครื่องคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์  แผงวงจรไฟฟ้า  เครื่องจักรกล ยางพารา รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น  ส่วนไทยมีการนำเข้าถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร นอกจากนี้ บราซิลเริ่มเข้ามาเปิดตลาดเนื้อวัวในไทยได้เพิ่มมากขึ้น
  2. การส่งออกสินค้าของบราซิลในช่วงเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 มีการขยายตัวได้ดี เนื่องจากมีต้องการสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมในประเทศต่างๆ รวมถึงความต้องการสินค้าอาหารจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากจีน   ในส่วนของการส่งออกของไทยไปยังบราซิลมีการนำเข้าวัตถุดิบอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมากจากการที่อุตสาหกรรมต่างๆของบราซิลเริ่มกลับมาผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งอุตสาหกรรมของบราซิลลดการนำเข้าสินค้าต่างๆจากความชะลอการผลิตสินค้าจากมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรสโควิด-19   ส่วนการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคลดลงเนื่องจาก ต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้น การลดลงของกำลังซื้อของผู้บริโภคจากรายได้ที่ลดลง รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 8.35
OMD KM

FREE
VIEW