รายงานสถานการณ์การค้าราชอาณาจักรเบลเยียม ณ กรุงบรัสเซลส์ เดือนกรกฎาคม 2565

กฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับกัญชาหรือกัญชงของเบลเยียม

บริษัท CMS” ได้จัดทำสรุปกฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับกัญชา/กัญชงของเบลเยียม ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้

1. การใช้ทางการแพทย์

1.1 โดยหลักการแล้ว กฎหมายเบลเยียมไม่อนุญาตให้มีการเพาะปลูก นำเข้า จำหน่าย และครอบครองกัญชา/กัญชง (cannabis) (ที่ใช้ในทางการแพทย์หรือสันทนาการ) อย่างไรก็ดี มีข้อยกเว้นกรณีเป็นการเพาะปลูกกัญชา/กัญชง (hemp) ที่ได้รับอนุญาตให้เพาะปลูกได้โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบในระดับภูมิภาคที่มีระดับสารออกฤทธิ์ delta-9-tetrahydrocannabinol ไม่เกินกว่า 0.6%

1.2 ห้ามการจำหน่ายกัญชา/กัญชงทางการแพทย์ (medical cannabis) ในตลาดเบลเยียม ยกเว้นผลิตภัณฑ์ยาที่ใช้กัญชา/กัญชงที่ได้รับอนุญาตให้วางจำหน่ายในตลาดได้ภายใต้ใบสั่งแพทย์ ซึ่งปัจจุบันมีเพียง Sativex

1.3 เภสัชกรสามารถเตรียมจ่ายผลิตภัณฑ์ยาจากสารออกฤทธิ์ cannabidiol (CBD) ได้ หากดำเนินการตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ 1) การใช้วัตถุดิบ อาทิ CBD ที่มีสาร THC เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ยาได้หากผู้ป่วยได้รับสาร THC ในปริมาณมากสุดไม่เกิน 0.2 ไมโครกรัมของน้ำหนักตัวต่อวัน ทั้งนี้ ปัจจุบันมีบริษัทของเบลเยียมเพียงแห่งเดียวที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายผง CBD ให้กับเภสัชกรเพื่อการดำเนินการดังกล่าว 2) การจ่ายผลิตภัณฑ์ยาที่ใช้สาร CBD ต้องเป็นไปตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น

1.4 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไปร้านขายยาสามารถวางจำหน่ายน้ำมัน CBD สำหรับการใช้ภายนอกได้

1.5 ห้ามวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ใช้กัญชง/กัญชา (hemp)

1.6 เดิมในปี 2546 การครอบครองกัญชา/กัญชง (cannabis ส่วนบุคคลนั้นมีความแตกต่างจาก
การครอบครองสารที่ถูกควบคุมอื่นๆ โดยผู้กระทำความผิดไม่ต้องรับโทษหากไม่มีหลักฐานว่าการใช้ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาหรือก่อให้เกิดการรบกวนต่อสาธารณะ อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้พบว่าข้อกำหนด ดังกล่าวยังไม่ชัดเจน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ เบลเยียมจึงได้ออกกฎระเบียบใหม่ ซึ่งทำให้สามารถดำเนินคดีในข้อหาครอบครองกัญชา/กัญชงอย่างเต็มรูปแบบในกรณีต่างๆ ได้แก่ ปริมาณการใช้กัญชา/กัญชง (cannabis) เกินจาก ๆ กรัมหรือมีการใช้เกินกว่า 1 ต้น มีการก่อกวนความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น ซึ่งรวมถึงการครอบครองกัญชา/กัญชงในหรือบริเวณใกล้กับโรงเรียน ผู้กระทำความผิดจะมีโทษจำคุก 3 เดือนถึง 1 ปี และ/หรือค่าปรับจำนวน 8,000-800,000 ยูโร ในกรณีที่ไม่มีการทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นผู้ที่ครอบครองกัญชา/กัญซง (cannabis) เพื่อการใช้ส่วนบุคคล จะมีโทษถูกปรับจำนวน 120-200 ยูโร

2. การใช้เพื่อสันทนาการ

2.1 เบลเยียมห้ามการผลิต นำเข้า และจำหน่ายกัญชา/กัญชงเพื่อสันทนาการ (recreational hemp)

2.2 แต่ในกรณีผู้ที่ปลูกกัญชา/กัญซง (hemp) เพียง ๑ ต้นในสถานที่พักอาศัยของตน ตามหลักการแล้วจะไม่ต้องรับโทษตราบใดที่นโยบายทางอาญาจัดความผิดประเภทนี้ว่าไม่ใช่ความผิดสำคัญ

3. การใช้ทางอุตสาหกรรม

3.1 การเพาะปลูกกัญชา/กัญชง (hemp varieties of cannabis)สำหรับการผลิตเส้นใยเพื่อวัตถุประสงค์ในอุตสาหกรรม อาทิ เครื่องสำอาง สามารถทำได้โดยต้องมีใบอนุญาต

3.2เบลเยียมห้ามวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและอาหารอื่นๆ ที่ใช้กัญชา/กัญชง (hemp) และการแปรรูปจากกัญชา/กัญชง (hemp) เป็นอาหาร (แต่อาจยกเว้นสำหรับอาหารบางประเภท)

3.3 ปริมาณของสาร THC ที่ปลอดภัย (THC safety limits) สำหรับอาหารกำหนดไว้ต่ำมาก (สินค้าอื่นๆกำหนดให้ต้องต่ำกว่าปริมาณจำกัดที่ 0.2%) แม้แต่สินค้าชาสมุนไพรที่ใช้ใบและดอกกัญชา/กัญชง (hemp) ถึงแม้จะมีระดับ THC ที่ต่ำมากก็ไม่ได้รับการยกเว้น

3.4 เบลเยียมไม่มีกฎระเบียบเกี่ยวกับสาร CBD

4.การจดสิทธิบัตร (Patentability)

เบลเยียมไม่มีข้อห้ามทั่วไปสำหรับการจดสิทธิบัตรสินค้าที่มาจากกัญชา/กัญชง (cannabis) แต่ภายใต้ประมวลกฎหมายเศรษฐกิจของเบลเยียม (the Belgian Code of Economic Law) สินค้าที่ผลิตขึ้นในเชิงพาณิชย์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมของประชาชนจะไม่ได้รับการจดสิทธิบัตร

5. พัฒนาการล่าสุด

5.1 หน่วยงานรัฐบาลกลางสำหรับสุขภาพ ความปลอดภัยของห่างโซ่อาหาร และสิ่งแวดล้อมของเบลเยียม (federal Public Service for the Health, Food chain safety and Environment)’ ระบุว่า กัญชาหรือกัญชง (Cannabis sativa L.) ถูกจัดว่าเป็นพืชอันตรายที่ไม่สามารถใช้เป็นอาหารหรือเป็นส่วนประกอบในอาหาร ภายใต้ Royal Decree เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2540 เกี่ยวกับการผลิตและการค้าสินค้าอาหารที่ประกอบด้วยพืซหรือพืชปรุงแต่ง ดังนั้นเบลเยียมจึงห้ามวางจำหน่ายกัญซาหรือกัญซงเป็นอาหารหรือเป็นส่วนประกอบในอาหาร และห้ามผลิตและวางจำหน่ายพืชปรุงแต่งที่มาจากกัญชาหรือกัญชงเป็นอาหารหรือเป็นส่วนประกอบในอาหาร
‘Cannabis sativa L. is induded in List a ‘Dangerous plants which cannot be used as or in foodstuffs” annexed to the Royal Decree of 29′ August 1997 on the manufacture of and trade in foodstuffs composed of or containing plants or plant preparations. These provisions also apply to hemp with a THC content of 0.2% or less.’

5.2 หน่วยงานด้านกัญชา/กัญชง กฎหมายเบลเยียมเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2562 ได้กำหนดให้จัดตั้งหน่วยงานรัฐบาลสำหรับกัญชา/กัญชง (cannabis agency) ซึ่งดำเนินการภายใต้หน่วยงานรัฐบาลกลางสำหรับผลิตภัณฑ์ยาและสุขภาพของเยลเยียม (Federal Agency for Medicines and Health Products: FAMHP) โดยจะมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการกระจายผลิตภัณฑ์กัญชา/กัญชงทางการแพทย์ การกำหนดแหล่งเพาะปลูกที่ได้รับอนุญาตการออกใบอนุญาตให้แก่ผู้เพาะปลูก การซื้อและการครอบครอง และนำเข้า ส่งออก การค้าปลีก และการรักษาคลังสินค้ากัญชา/ กัญชงทางการแพทย์ (medical cannabis) ดังนั้นผู้เพาะปลูกและห่วงโซ่การกระจายสินค้าที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานดังกล่าวเท่านั้นจึงจะสามารถทำการเพาะปลูกและแจกจ่ายกัญชา/กัญชงทางการแพทย์ (medical cannabis) ได้ ทั้งนี้ หน่วยงานดังกล่าวยังไม่ได้เปิดทำการ จนกว่าจะมีการเผยแพร่กฎการดำเนินการที่เกี่ยวข้องในพระราชกฤษฎีกา (Royal Decree) ของเบลเยียม

5.3 ในช่วงที่ผ่านมา มีการเรียกร้องเพื่อทำให้กัญชา/กัญชง (cannabis) ถูกกฎหมายมากขึ้น ซึ่งเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ได้มีการยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลของเบลเยียมเพื่อให้พิจารณาให้กัญชา/กัญชง (cannabis) เป็นสิ่งถูกกฎหมายในเบลเยียม (55_2020-2021/63-Petition for the legalization of cannabis in Belgium)’ โดยตามกลไกทางกฎหมายคำร้องดังกล่าวต้องได้รับการสนับสนุนอย่างน้อย 25,000 รายชื่อภายในกำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564-31 ตุลาคม 2565 จึงจะได้รับการพิจารณาต่อไปทั้งนี้ จนถึงเดือนกรกฎาคม 2565 มีผู้ลงชื่อไปแล้ว 415 ราย แบ่งเป็นสัดส่วนประชากรตามเขตของเบลเยียมโดยเขตฟลานเดอร์ 296/14,500 ราย เขตวอลลูน 72/8,000 ราย และเขตบรัสเซลส์ 37/2,500 ราย

OMD KM

FREE
VIEW