รายงานสถานการณ์การค้าราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ณ กรุงเฮก เดือนกรกฎาคม 2565

ราคาอาหารในเนเธอร์แลนด์เพิ่มขึ้น 11% สูงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

ผู้บริโภคในเนเธอร์แลนด์มีค่าใช้จ่ายครัวเรือนในการซื้อสินค้าอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ในเดือนมิถุนายนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าราคาสินค้าอาหารมีการปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมที่ร้อยละ 8.6 สถานการณ์ที่ราคาสินค้าอาหารจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก สำนักงานสถิติแห่งชาติเนเธอร์แลนด์ (Central Bureau van Statistiek : CBS) รายงานว่าสถานการณ์ที่ราคาสินค้าอาหารในเนเธอร์แลนด์มีการปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 โดยเฉลี่ยตลอดทั้งปีเช่นนี้เกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อปี 2519

ในเดือนมิถุนายน 2565 ราคาสินค้าอาหารมีการปรับตัวสูงขึ้นทุกหมวด โดยราคาสินค้าเนื้อสัตว์และปลามีการปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดประมาณร้อยละ 15 โดยเนื้อสัตว์มีราคาเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 16 และปลามีราคาเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนปีก่อนหน้า ราคาผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 14 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 25551 และในบรรดาผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมเนยเป็นสินค้าที่ราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดและรวดเร็วที่สุด

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติเนเธอร์แลนด์ (CBS) พบว่าราคาสินค้าอาหารที่มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมักมีสาเหตุมาจากการปรับราคาตามผู้ผลิต ซึ่งราคาผู้ผลิตมีความเชื่อมโยงอย่างมากกับราคาอาหารในตลาดโลกราคาต้นทุนในการผลิตสินค้าอาหารมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว และเพิ่มสูงขึ้นเกือบร้อยละ 23 ในเดือนพฤษภาคม 2565 เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมปีก่อนหน้า ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนที่ส่งผลให้ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บทวิเคราะห์และความเห็นสคต.

ความผันผวนของราคาในห่วงโซ่อาหารที่มักมีจุดเริ่มต้นจากราคาวัตถุดิบและถูกส่งผ่านไปยัง
ผู้ผลิต ผู้แปรรูป ผู้ค้า และในที่สุดถึงผู้บริโภค สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ไม่เพียงส่งผลกระทบเรื่องราคาพลังงานที่ส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผู้บริโภคสัมผัสได้จากราคาสินค้าอาหารที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเรื่องราคาและอุปทานของสินค้าอื่นๆ ในห่วงโซ่อีกด้วย ความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัยส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์แม้ว่าจะมีความแข็งแกร่งและสามารถฟื้นฟูจากสถานการณ์โควิด-19 ได้นั้นต้องเกิดการชะลอตัว ซึ่งมีการปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์ในปี 2565 จากร้อยละ 3.3 เหลือเพียง 2.9 อย่างไรก็ตาม อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าอาหารในเนเธอร์แลนด์ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรป โดยในเดือนพฤษภาคม 2565 ราคาสินค้าอาหารที่มีการปรับตัวสูงขึ้นในเนเธอร์แลนด์ยังถือได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรป แต่อยู่ในระดับที่สูงที่สุดในกลุ่มประเทศเบเนลักซ์แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเยอรมนีและประเทศในยุโรปตะวันออก ราคาสินค้าอาหารในประเทศดังกล่าวมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่าเนเธอร์แลนด์มาก แต่ระดับราคาของสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปและการบริการในเนเธอร์แลนด์ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรป ซึ่งหากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มจะยืดเยื้อต่อไป และหากทั้งสองฝ่ายยังคงไม่สามารถที่จะเจรจายุติการสู้รบและยุติความขัดแย้งได้ ก็คาดว่าราคาพลังงานและราคาสินค้าทั้งหมดไม่เพียงแค่ราคาสินค้าอาหารก็คงจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

OMD KM

FREE
VIEW