รายงานสถานการณ์การค้าสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ณ กรุงมะนิลา เดือนธันวาคม 2565

ยอดขายรถยนต์ฟิลิปปินส์เดือนตุลาคม 65 โตต่อเนื่องขยายตัว 42.4%

หอการค้าผู้ผลิตยานยนต์แห่งฟิลิปปินส์ (Chamber of Automotive Manufacturers of the Philippines, Inc : CAMPI) และสมาคมผู้ผลิตรถบรรทุก (Truck Manufacturers Association: TMA) รายงานยอดขายรถยนต์ล่าสุดในเดือนตุลาม 2565 มีจํานวน 32,146 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.4 จากเดือนตุลาคม 2564 ที่มีจำนวน 22,581 คัน แบ่งเป็นยอดขายรถยนต์รถยนต์เชิงพาณิชย์ (Commercial vehicles) มีจำนวน 23,852 เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.5 คิดเป็นร้อยละ 74.20 ของยอดขายรถยนต์รวมทั้งหมดในเดือนตุลาคม 2565 โดยยอดขายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก (LCV) มีจำนวน 18,184 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.5 และรถยนต์เอนกประสงค์ในเอเชีย (Asian Utility Vehicles: AUVs) มีจำนวน 4,688 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 84.6 ในขณะที่ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (Passenger Cars) มีจำนวน 8,294 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 คิดเป็นร้อยละ 26 ของยอดขายรถยนต์รวม ทั้งนี้ ยอดจำหน่ายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม 2565 ดังกล่าวส่งผลให้ยอดขายรถยนต์รวมในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 (เดือนมกราคม – ตุลาคม 2565) มีจำนวนรวมอยู่ที่ 280,300 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.9 แบ่งเป็นยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์จำนวน 211,948 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.6 โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก และรถยนต์เอนกประสงค์และยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล จำนวน 68,352คัน ลดลงร้อยละ 0.4 โดยบริษัท Toyota Motors Philippines Corp. (TMP) ยังคงเป็นครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดคิดเป็นร้อยละ 50.1 โดยมียอดขายอยู่ที่ 140,425 คัน รองลงมาได้แก่ Mitsubishi Motors Corp. มียอดจำหน่าย 40,666 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 14.51 บริษัท Ford Motor Phils., Inc มียอดจำหน่าย 18,645 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 6.65 บริษัท Nissan Philippines, Inc. มียอดจำหน่าย 17,762 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 6.34 และบริษัท Suzuki Phils., Inc. มียอดขาย 16,167 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 5.77 ตามลำดับ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ CAMPI ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 336,000 คัน ในปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับยอดขาย 268,488 คันในปี 2564 นาย Rommel R. Gutierrez ประธาน CAMPI กล่าวว่า การเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่องในเดือนตุลาคม 2565 ช่วยเพิ่มการมองโลกในแง่ดีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ และเร่งการฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในปีนี้ทั้งนี้ การรักษาแนวโน้มการเติบโตไว้ในช่วงเดือนที่เหลือของปีทำให้มั่นใจว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้

อุตสาหกรรมยานยนต์ในฟิลิปปินส์ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติโควิด-19 ในปี 2563 ปัจจุบันมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 โดยในปี 2564 มียอดจำหน่ายรถยนต์รวม 330,445 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.94 จากปี 2563 ที่มียอดจำหน่ายรวม 275,512 คัน ปัจจัยสนับสนุนหลักเกิดจากการผ่อนปรนมาตรการและมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดฯลงอย่างมาก ทำให้ภาวะกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาขับเคลื่อนและส่งผลให้ความต้องการซื้อรถยนต์ใหม่ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวขึ้น และสถานการณ์ล่าสุดผลประกอบการของอุตสาหกรรมยานยนต์ในเดือนตุลาคม 2565 ดังกล่าวเป็นสัญญาณเชิงบวกที่คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ของฟิลิปปินส์จะสามารถฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้และระยะต่อไป

ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของ สคต.

ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในตลาดส่งออกรถยนต์สำคัญของไทย และเป็นสินค้าที่ไทยส่งออกมายังประเทศฟิลิปปินส์เป็นอันดับ 1 โดยสถานการณ์การส่งออกสินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบของไทยมายังฟิลิปปินส์ขยายตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ในฟิลิปปินส์ โดยในปี 2564 มีมูลค่าส่งออก 1,696.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.86 จากปี 2563 ที่มีมูลค่า 1,163.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สําหรับในปี 2565 (เดือนมกราคม – กันยายน) มีมูลค่า 1,379.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.90 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 1,150.39 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์ในฟิลิปปินส์ยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและสามารถเติบโตได้อีกมากจากปัจจัยสนับสนุนจากจํานวนประชากรขนาดใหญ่ อัตราการเป็นเจ้าของรถยนต์ยังอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งปัจจัยหนุนอื่นๆ ทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดความต้องการรถยนต์เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับแผนกลยุทธ์รองรับที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอต่อสถานการณ์ที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

OMD KM

FREE
VIEW