แนวโน้มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในจีน
จากการสำรวจอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พบว่าปัจจุบันผู้บริโภคจีนมีความตระหนักถึงสุขภาพตัวเองมากขึ้น และมุมมองต่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี รวมถึงผู้บริโภคกลุ่มวัยทำงาน มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นผู้ซื้อหลักในตลาดนี้
ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2564 มีบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรวม 2.2 ล้านกว่าบริษัท ซึ่งพื้นที่ที่มีบริษัทตั้งอยู่ค่อนข้างมาก ได้แก่ มณฑลซานตง และ มณฑลกวางตุ้ง โดยมักกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ติดริมทะเล และเมืองที่อยู่ในภาคตะวันออกของจีน เมื่อย้อนดูสถิติของมูลค่าตลาดดังกล่าว พบว่าช่วง พ.ศ. 2556 – 2566 มูลค่าตลาดของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยคาดว่าปี 2566 มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจมีมูลค่าถึง 3.283 แสนล้านหยวน และในอนาคตคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจีนจะยกระดับสูงขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุให้ความสำคัญกับสุขภาพ และความต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสม NMN (Nicotinamide MonoNucleotide) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยชะลอวัยได้รับความนิยมมากในตลาดจีน ซึ่งพบว่า 2 ใน 3 ของผู้บริโภคเคยได้ยินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสม NMN ในจำนวนนั้นร้อยละ 24.6 ของผู้บริโภค มีความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสม NMN ว่ามีประโยชน์ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยการนอนหลับ และช่วยชะลอวัย และมีผู้บริโภคที่คิดว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสม NMN มีประโยชน์ต่อสุขภาพ คิดเป็นร้อยละ 66.7 แต่ก็ยังพบว่าร้อยละ 33.3 คิดว่าเป็นการโฆษณาเกินจริงของผู้ขายเท่านั้น
แนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะเป็นดังนี้
- ธุรกิจแขนงอื่น ๆ เช่น ผู้ประกอบการยา นมผง เป็นต้น เริ่มทยอยเข้าสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (หมวดอุตสาหกรรมสุขภาพ) โดยนักวิเคราะห์จาก iiMedia เผยว่าช่วงสถานการณ์ Covid-19 ผู้บริโภคชาวจีนได้ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพ และแสวงหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่าง ๆ มาบำรุงร่างกาย ทำให้ตลาดมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยดึงดูดการลงทุน และผลักดันตลาดให้มีการพัฒนามากขึ้น
- การวิจัยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ ๆ ได้กลายเป็นจุดเติบโตของตลาดของจีนในอนาคต โดยจะเน้นด้านประสิทธิภาพ และข้อมูลทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงความคล้ายคลึงกันของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบเดิมที่มีอยู่แล้วแต่ควรสร้างประสิทธิภาพ และเทคนิควิจัยใหม่เพื่อสร้างจุดขาย และผลักดันการจำหน่าย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในตลาดอย่างยั่งยืน
- สร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ให้เป็นกลุ่มยารักษาโรค ทั้งนี้ ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของจีนยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ จึงจำเป็นต้องมีจุดยืนของผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน
- การจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเปลี่ยนแปลงจากกลยุทธ์แบบเรียบง่ายสู่การใส่ใจรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น เช่น ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่มีความถนัดในสายงานของตน และให้ความสำคัญต่อการจำหน่ายในทุกขั้นตอน เป็นต้น
- การจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วยความซื่อสัตย์ และไม่หลอกลวงผู้บริโภค เนื่องจากการเก็งกำไรในระยะสั้นส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือต่ออุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในจีนเป็นอย่างมาก และยังเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางการพัฒนาตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของจีนให้เติบโตไปในทิศทางที่ดี ซึ่งการปรับสภาพตลาดให้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยเหลือ ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ปี 2562 หน่วยงานภาครัฐของจีนได้เข้ามาปรับปรุงระบบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้มีทิศทางไปตามหลักความซื่อสัตย์ และไม่หลอกลวงผู้บริโภค
- การขายของแบรนด์ และวัฒนธรรมกลายเป็นทิศทางการเติบโตใหม่ของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในจีน โดยแนวโน้มตลาดเป็นไปในทิศทางที่เป็นระบบมีมาตรฐาน และพฤติกรรมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่ดีถูกสังคมต่อต้าน
ข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นของ สคต.
ปัจจุบันนี้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นที่นิยมอย่างมากในจีนทั้งในผู้สูงอายุ และวัยรุ่นทุกคนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 นี้ทุกเพศทุกวัยเริ่มที่จะบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากขึ้น ซึ่งจากรายงานข้างต้นจะเห็นได้ว่าจำนวนการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของประชาชนในจีนมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ไม่ได้มีแค่ผู้สูงอายุเท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพแต่วัยทำงานก็เริ่มบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากขึ้นเช่นกัน ทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นที่ต้องการอย่างมากในปัจจุบัน จึงเป็นอีกโอกาสหนึ่งสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไปยังจีน รวมถึงการคำนึงถึงการใช้สาร NMN ที่ช่วยในเรื่องของการชะลอวัย การบำรุงรักษา และซ่อมแซมร่างกายเพิ่มเข้ามาใช้ในตัวผลิตภัณฑ์สร้างความเชื่อถือให้กับแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ทำให้สินค้าบริโภคได้ทั้งวัยรุ่น และผู้สูงอายุเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในจีนที่สำคัญต้องคำนึงถึงคุณภาพ และความปลอดภัยในตัวสินค้าซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของประเทศไทยได้มาครองส่วนแบ่งการตลาดในจีนเพิ่มมากขึ้น
