รายงานสถานการณ์การค้าสหรัฐอเมริกา ณ นครนิวยอร์ก เดือนพฤศจิกายน 2565

“เจาะลึกไลฟ์สไตล์ชาวอเมริกันในแต่ละ Gen”

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศขนาดใหญ่ มีประชากรเป็นจํานวนมาก จากการเก็บรวบรวมข้อมูลจํานวนประชากรสหรัฐฯ ของ US Census Bureau ปี 2565 พบว่าสหรัฐฯ มีประชากรประมาณ 334 ล้านคน และมีครอบครัวแล้วประมาณ 129.4 ล้านคน โดยกลุ่ม Millennial (อายุ 25-39 ปี) เป็นกลุ่มที่มีจํานวนประชากรมากที่สุด รองลงมา คือกลุ่ม Baby Boomer (อายุ 55 ปีขึ้นไป) กลุ่ม Gen Z (อายุ 12-24 ปี) กลุ่ม Gen X (อายุ 40-54 ปี) และกลุ่ม Gen Alpha (อายุต่ํากว่า 12 ปี) ตามลําดับ ทั้งนี้ นิวยอร์กเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นเป็นลําดับต้น รองลงมา คือ ลอสแอนเจลีส ชิคาโกและดัลลัส บริษัท Euromonitor ได้จัดทําการสํารวจข้อมูลไลฟ์สไตล์ของชาวอเมริกัน โดยรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ จํานวน 1,000 คน อายุตั้งแต่ 15-55 ปี ซึ่งผลการสํารวจนี้สามารถใช้เป็นทิศทางให้ผู้ประกอบการนําไปปรับปรุงพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของชาวอเมริกันในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยการสํารวจสรุปได้ดังนี้

  1. การจัดลําดับความสําคัญของชีวิต (life priorities): ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ให้ความสําคัญกับตนเองเป็นอันดับต้น รองลงมาคือการให้ความสําคัญกับคู่ครอง ลูกพ่อแม่และญาติพี่น้อง นอกจากนี้ได้มีการจัดลําดับความสําคัญของการทํากิจกรรมของชาวอเมริกันพบว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ใช้เวลาในการทํากิจกรรมที่ตนเองสนใจเป็นหลัก รองลงมาคือ กิจกรรมสังสรรค์ ทํางาน ท่องเที่ยวและการเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณประโยชน์การจัดลําดับความสําคัญในการเลือกซื้อสินค้าและบริการพบว่า ผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าและบริการที่มีสไตล์ตรงกับการใช้ชีวิตของตนเอง รองลงมาคือสินค้าและบริการที่มีความโดดเด่นไม่ซ้ําใคร สินค้าและบริการที่มีลักษณะเฉพาะสําหรับตนเองสินค้าและบริการตามกระแสนิยมและสินค้าและบริการที่แสดงออกถึงสถานะทางสังคมตามลําดับ
  2. ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในสหรัฐฯ กับการใช้ชีวิตที่บ้าน (Home life): การสํารวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานไปยังชานเมือง พบว่ากลุ่มผู้บริโภค Gen X และกลุ่ม Baby Boomer เป็นกลุ่มที่มีความต้องการที่จะย้ายออกไปนอกเมืองมากที่สุด เนื่องจากพวกเขาต้องการที่พักที่มีบริเวณและมีราคาที่สามารถซื้อได้อนึ่งในช่วงการระบาดของ COVID ที่ผ่านมาทําให้ชาวอเมริกันต้องใช้ชีวิตที่บ้านทํากิจกรรมอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งทํางาน เรียนและออกกําลังกาย ส่งผลให้เกิดความต้องการในการด้านพื้นที่อํานวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้นการสํารวจเพิ่มเติมพบว่า กลุ่ม Millennial เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมชื่นชอบการออกกําลังกายออนไลน์จากที่บ้านมากที่สุด จึงนิยมให้ที่พักอาศัยมีพื้นที่สําหรับออกกําลังกายมากขึ้น นอกจากนี้แล้ว กลุ่ม Millennial ยังได้เป็นผู้ผลักดันเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ที่บ้านในช่วงปีที่ผ่านมา ปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีความต้องการพื้นที่ทั้งสําหรับตนเองและสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น เชื่อว่ากลุ่ม Millennial น่าจะเป็นตัวแปรที่สําคัญที่ช่วยกระตุ้นให้อุปสงค์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชานเมืองมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต

ข้อมูลอ้างอิงจากสํานักข่าว Bloomberg ระบุว่า ในปี 2565 ชาวอเมริกันมีการขยายถิ่นฐานออกไปนอกเมืองรวมทั้ง ย้ายไปยังเมืองที่ไม่แออัดมากขึ้นนัก โดยเมืองรองที่ชาวอเมริกันนิยมย้ายถิ่นฐานไป ได้แก่ เมืองออสติน (รัฐเท็กซัส) เมืองชาร์ลอต (รัฐนอร์ทแคโรไลนา) เมืองแอตแลนต้า (รัฐจอร์เจีย) เมืองราเล่ห์ (รัฐนอร์ทแคโรไลนา) เมืองลาสเวกัส (รัฐเนวาด้า) และเมืองแทมป้า (รัฐฟอริด้า) ตามลําดับ

  1. ชีวิตการทํางาน (Working life): บริษัทส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ยังคงให้พนักงานทํางานที่บ้านได้เพื่อเป็นสิ่งจูงใจในการจ้างงาน จากการสํารวจพบว่าร้อยละ 42 ของกลุ่มสํารวจยังคงทํางานที่บ้านเป็นประจํา อย่างไรก็ดี จากการสํารวจความเห็นของชาวอเมริกันเกี่ยวกับปัจจัยการเลือกงานพบว่า ส่วนใหญ่ต้องการงานที่มั่นคง รองลงมาต้องการงานที่ให้ผลตอบแทนสูง งานที่ให้สามารถรักษาสมดุลของการใช้ชีวิตประจําวันและการทํางาน งานที่ใกล้บ้านงานที่สามารถทําที่บ้านได้งานที่สามารถเลือกเวลาทํางานเองได้งานที่มีผู้จัดการที่ดี งานของบริษัทที่มีชื่อเสียง งานที่มีหลักสูตรฝึกอบรมและงานที่มีเพื่อนร่วมงานที่มีลักษณะใกล้เคียงกับตน

การแพร่ระบาดของ COVID ที่ผ่านมาได้กระตุ้นให้ชาวอเมริกันจํานวนมาก โดยเฉพาะชาวอเมริกันที่มีอายุน้อย มองหาโอกาสใหม่ๆ ในการทํางาน จากการสํารวจพบว่ากลุ่ม Gen Z (ร้อยละ 25) และ GenMillennial (ร้อยละ 23) วางแผนที่จะมีบริษัทของตนเองในอนาคตเพื่อประกอบอาชีพที่มีความยืดหยุ่นที่สามารถรักษาสมดุลระหว่างการทํางานและการใช้ชีวิตมากขึ้น

  1. ไลฟ์สไตล์กิจกรรมสันทนาการ (Leisure habits): การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ในช่วง COVID ทําให้ชาวอเมริกันได้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านเป็นสําคัญและทําให้ผู้บริโภคจํานวนมากหันมาให้ความสําคัญกับการปรับปรุงสิ่งบันเทิงในที่พักอาศัยและกิจกรรมสันทนาการในบ้านเพิ่มมากขึ้น โดยกิจกรรมการพักผ่อนที่บ้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือการดูทีวีรองลงมาคือการออกกําลังที่บ้าน และกิจกรรมอดิเรกในบ้านแบบดั้งเดิม เช่น ทําสวน ตกแต่งบ้านและอื่นๆ จากการสํารวจยังพบว่าการเล่นวิดีโอเกมก็เป็นอีกกิจกรรมที่ผู้ตอบแบบสอบถามได้กล่าวถึงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่นิยมเล่นวีดีโอเกมส์อย่างน้อย 1 ครั้ง/สัปดาห์แม้ว่าการระบาดของ COVID จะเริ่มบรรเทาลงบ้างแล้วแต่กลุ่ม Millennial ก็ยังคงให้ความสําคัญกับประสบการณ์เสมือนจริงออนไลน์ และชื่นชอบประสบการณ์เสมือนจริงทางออนไลน์มากกว่าประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง ทั้งนี้ผู้บริโภคกลุ่ม Millennial มีความเห็นว่าการใช้จ่ายเงินเพื่อประสบการณ์เป็นสิ่งสําคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้ว กิจกรรมสันทนาการ อื่นๆ ที่ชาวอเมริกันให้ความสนใจ เช่น การไปช้อปปิ้ง การไปชมกีฬา การไปชมภาพยนตร์ การเดินทางแบบสั้นๆ 1 วัน การไปพิพิธภัณฑ์และการไปคอนเสิร์ต ตามลําดับ ชาวอเมริกันมีการวางแผนการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนเพิ่มมากขึ้น แม้จะมีปัจจัยเงินเฟ้อและราคาเชื้อเพลิงเข้ามาแทรกแซง จากการสํารวจพบว่าร้อยละ 35 ระบุว่าการเดินทางนั้นช่วยทําให้ผ่อนคลาย โดยกิจกรรมกลางแจ้งและการพักผ่อนทางธรรมชาติเป็นกิจกรรมที่ชาวอเมริกันให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จากการสํารวจกิจกรรมสันทนาการโดยแยกตามกลุ่ม Gen พบว่า กลุ่ม Millennial เป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจการพักผ่อนนอกบ้านมากที่สุด เช่น การช้อปปิ้ง การเดินทางแบบสั้นๆ วันเดียว การไปโรงหนัง คอนเสริต์และพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น
  1. ไลฟ์สไตล์เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม (Health and Wellness): การระบาดของ COVID ที่ผ่านมาทําให้ผู้บริโภคให้ความสําคัญกับแนวทางป้องกันด้านสุขภาพและปรับพฤติกรรมเพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วย โดยร้อยละ 70 ของผู้ตอบแบบสอบถามนิยมรับประทานอาหารเสริมและวิตามิน บํารุงสุขภาพเป็นประจํา ในขณะเดียวกันผู้ตอบแบบสอบถามอีกร้อยะ 29 (ส่วนใหญ่เป็น Gen Z และ Millennial) ให้ความสนใจกับอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพและคาดว่าน่าจะมีการใช้จ่ายเกี่ยวกับสินค้าและบริการด้านสุขภาพและความงามมากขึ้นอีกในอนาคตแบบสอบถามเกี่ยวกับกิจกรรมการบรรเทาความเครียดภายใน 6 เดือนของชาวอเมริกัน จํานวน 616 คน พบว่ากิจกรรมการนั่งสมาธิ การนวด การใช้สมุนไพร โยคะ ยานอนหลับ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและเข้าสปา เป็นวิธีที่นิยมมาก โดย Gen X จะชื่นชอบการฝึกสมาธิมากเป็นอันต้น
  2. เทคโนโลยี(Technology): ผู้บริโภคในสหรัฐฯ มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ดิจิทัล เพื่อช่วยปรับปรุงและรักษาสุขภาพของตนเอง โดยมีกลุ่ม Millennial เป็นผู้นําในกลุ่มนี้ซึ่งนิยมใช้แอพพิเคชั่นและอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อติดตามสุขภาพ ตลอดจน มีการนําเทคโนโลยีภาพเสมือนจริงมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจําวันมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคอายุน้อยก็หันมาใช้เทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทําให้บ้านของพวกเขาสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการสํารวจกิจกรรมออนไลน์และช่องทางที่ผู้บริโภคเข้าชมมากที่สุดใน 1 สัปดาห์ พบว่า การค้นหาข้อมูลออนไลน์เป็นที่นิยมมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ การเข้าดูสื่อโซเชี่ยลออนไลน์ ดูข่าวออนไลน์เล่นวีดีโอเกมส์ออนไลน์ เข้าเวปไซต์ทางการแพทย์และสุขภาพ สํารวจข้อคิดเห็นหลังการใช้ของผู้ใช้รายอื่นๆ (reviews) เข้าเวปไซต์หาคู่ และการเข้าใช้ประสบการณ์เสมือนจริงออนไลน์จากแบรนด์ต่างๆ

ข้อมูลวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ของชาวอเมริกันนับเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในการพัฒนาสินค้าและวางแผนการตลาดให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในตลาดเป้าหมาย ซึ่งจะทําให้ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มช่องทางและโอกาสในการจําหน่ายสินค้าได้มากขึ้นหากเข้าใจถึงรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างของผู้บริโภคในแต่ละรุ่น (Generations) ซึ่งในอนาคตอันใกล้ กลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z ในตลาดสหรัฐอเมริกาจะมีกําลังการซื้อเพิ่มขึ้นและเข้ามามีบทบาทที่สําคัญในตลาด ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรเร่งศึกษาและปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ทั้งการสร้างโลกจําลอง (Virtual Reality: VR) และการสร้างวัตถุในโลกแห่งความจริง (Augmented Reality: AR) ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคอเมริกันกลุ่ม Gen Z ที่เป็นกลุ่มที่เน้นหนักทางด้านเทคโนโลยีและการเปิดรับข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ทั้งทางวีดีโอเกมส์และสื่อโซเชียลต่างๆ ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวน่าจะเป็นเทรนด์ยอดนิยมและกระจายครอบคลุมสู่ตลาดหลักโดยรวมต่อไป

แหล่งที่มาของข้อมูล: Euromonitor/Bloomberg/BEA.gov และสคต. นิวยอร์ก

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

OMD KM

FREE
VIEW