รายงานสถานการณ์การค้าสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ เมืองชิงต่าว เดือนพฤศจิกายน 2565
ติดตามสถานการณ์ตลาดอุตสาหกรรมน้ำมันหอมระเหยจากพืชธรรมชาติของจีน น้ำมันหอมระเหยถูกพบครั้งแรกโดยชาวอียิปต์เมื่อ 5,000 ปีก่อน นอกจากมีกลิ่นหอมแล้วยังมีประโยชน์ในการต้านเชื้อโรคและฆ่าแบคทีเรีย ซึ่งจีนมีการบันทึกการใช้พืชหอมตั้งแต่สมัยโบราณในขณะที่งานวิจัยปัจจุบันพิสูจน์ได้ถึงประสิทธิภาพในการดูแลผิวพรรณและประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้บริษัทต่างชาติเริ่มลงทุนในตลาดน้ำมันหอมระเหยมากขึ้น อาทิ BASF, SE และ Firmenich ซึ่งได้ซื้อกิจการและเร่งลงทุนการวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพ นอกจากนี้ บริษัทเครื่องสำอาง บริษัทด้านสุขภาพและโภชนาการเริ่มมีการลงทุนอีกทั้งมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำมันหอมระเหยจากพืชธรรมชาติเป็นสารประกอบอะโรมาติกธรรมชาติที่สกัดมาจากส่วนต่าง ๆ ของพืช อาทิ ส้ม ยูคาลิปตัส กุหลาบ กล้วย สาระแหน่ และอาร์เทมิเซีย นอกจากจะนำมาใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับทำเครื่องหอมแล้วยังใช้ในทางการแพทย์ วัตถุเจือปนอาหาร และสารเพิ่มประสิทธิภาพยาฆ่าแมลงในด้านการเกษตร สำหรับสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ พบว่า ประเทศพัฒนาแล้วมีการนำเข้าน้ำมันหอมระเหยอันดับต้นของโลก โดยในปี 2013 จีนเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีมูลค่าการนำเข้าน้ำมันหอมระเหยแซงญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ขณะที่การส่งออกในปี 2011 พบว่า อินเดียเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีศักยภาพการพัฒนารวดเร็วที่สุดโดยมีมูลค่าการส่งออกน้ำมันหอมระเหยเป็นอันดับ 1 ของโลกสูงกว่าสหรัฐอเมริกา ขณะที่ในปี 2013 จีนยกระดับมูลค่าการส่งออกขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของโลกแซงหน้าฝรั่งเศส โดยในปี 2022 – 2026 มีรายงานการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันหอมระเหยจากพืชธรรมชาติจีน พบว่า อุปทานโดยรวมมีแนวโน้มสูงขึ้นจากผู้ประกอบการที่เพิ่มขึ้นและการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ดีขึ้น สำหรับอุปสงค์โดยรวมมีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกันจากความต้องการใช้ทางการแพทย์และความต้องการเครื่องสำอางจากผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ …
รายงานสถานการณ์การค้าสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ เมืองชิงต่าว เดือนพฤศจิกายน 2565 Read More »