รายงานสถานการณ์การค้าราชอาณาจักรเดนมาร์ก ณ กรุงโคเปนเฮเกน เดือนกรกฎาคม 2565

ราคาอาหารนอร์เวย์เพิ่มสูงขึ้น (อีกแล้ว)

สำนักข่าว Thelocal.no รายงานข่าวว่า ร้านค้าปลีกซูปเปอร์มาร์เก็ตในนอร์เวย์ต่างประกาศปรับราคาสินค้าอาหารขึ้น (อีกแล้ว) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ทุกๆ ปีซูปเปอร์มาร์เก็ตในนอร์เวย์จะมีการปรับราคาสินค้าปีละ 2 ครั้ง คือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนกรกฎาคม โดยได้รับการยืนยันจากผู้บริหารกลุ่มบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของนอร์เวย์ Norgesgruppen ซึ่งเป็นเจ้าของ และดูแลบริหารจัดการซูปเปอร์มาร์เก็ต MENY และ KIWI ในนอร์เวย์ว่า ผู้บริโภค “เห็นราคาที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” ซึ่งเป็นเหตุผลอันเนื่องมาจากการที่ผู้ผลิตอาหารต่างปรับราคาสูงขึ้นหนึ่งในนั้นคือบริษัทผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ Orkla ซึ่งยืนยันข้อมูลนี้เช่นเดียวกัน และผู้บริหารบริษัท Orkla ได้ออกมาให้ความเห็นว่า สถานการณ์นี้เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในช่วง 31 ปีที่ผ่านมาตลอดช่วงระยะเวลาที่เขาทำงานในอุตสาหกรรมอาหารในนอร์เวย์ จากสาเหตุหลักคือ ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น รวมทั้งต้นทุนพลังงาน และราคาปุ๋ยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ผลิตจำเป็นต้องผลักราคาให้สูงขึ้น ทั้งนี้ ครัวเรือนนอร์เวย์ 1 ครัวเรือนอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยประมาณ 14,300 นอร์วิเจียนโครน (ประมาณ 51,152 บาท) สำหรับค่าใช้จ่ายอาหารในปีนี้เนื่องจากราคาที่สูงขึ้น

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติของนอร์เวย์ (Statistics Norway) ในช่วง 5 เดือนแรกปี 2565 ราคาอาหารในนอร์เวย์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 4.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา และคาดว่าครอบครัวที่มีผู้ใหญ่ 2 คนและเด็ก 2 คนจะมีค่าใช้จ่ายอาหารเพิ่มอีก 7,000 นอร์วิเจียนโครนต่อปี (ประมาณ 25,000 บาท) และหากราคาอาหารในนอร์เวย์เพิ่มขึ้นอีกถึงร้อยละ 5 ครอบครัวขนาด 4 คนก็จะมีค่าใช้จ่ายอาหารขยับเพิ่มขึ้นไปอีก 7,300 นอร์วิเจียนโครนต่อปี อย่างไรก็ตาม บริษัทร้านค้าปลีกซูปเปอร์มาร์เก็ตนอร์เวย์ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวราคาสินค้าอาหารที่เพิ่มขึ้นนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์จากองค์กร Agri Analyze กล่าวว่า ราคาสินค้าอาหารบางรายการเพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 1-3 ในขณะที่บางสินค้าอาจเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 10

ทางด้านบริษัทผู้ผลิตอาหารรายใหญ่อีกรายหนึ่งของนอร์เวย์ Notura กล่าวว่า ราคาเนื้อสัตว์และไข่ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และจากการประเมินโดยรวมของบริษัทฯ นั้นพบว่า โดยทั่วไปการเพิ่มขึ้นนั้นจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5 ส่วนทางบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของนอร์เวย์ Rema1000 และ Coop Norge SA ต่างก็ประกาศว่า ผู้บริโภคควรเตรียมรับมือภาวะราคาสินค้าอาหารที่สูงขึ้นจากทางบริษัทเช่นกัน ถึงแม้ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของนอร์เวย์ได้แจ้งว่า รัฐบาลได้จัดสรรเงินเข้าช่วยเหลือทางการเกษตรที่มอบให้กับเกษตรกรจำนวนกว่า 38.93 พันล้านบาทแล้วก็ตาม เพื่อช่วยเหลือจากปัญหาต้นทุนการผลิตอาหารที่เพิ่มขึ้นนี้

บทวิเคราะห์ผลกระทบต่อไทย:

นอร์เวย์มีจำนวนประชากรรวมประมาณ 5.43 ล้านคน ในช่วง 5 เดือนแรก (มกราคม – พฤษภาคม) ปี 2565 สินค้าส่งออกกลุ่มอาหารที่สำคัญจากไทยไปยังตลาดนอร์เวย์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ 105.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ข้าว 88.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 และผลไม้กระป๋องและแปรรูป 80.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.45 ทั้งนี้ นอร์เวย์ตั้งอยู่ในแถบยุโรปตอนเหนือ ไม่ได้เป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่เป็นสมาชิกกลุ่ม EFTA และใช้กฎระเบียบที่อ้างอิงกับสหภาพยุโรปที่คล้ายคลึงกัน การปรับราคาสินค้าอาหารในนอร์เวย์นี้เกิดขึ้นครอบคลุมสินค้าหลายรายการ รวมทั้งสินค้าอาหารไทยด้วย

โอกาสและแนวทาง:

  1. ประชากรนอร์เวย์มีรายได้เฉลี่ยที่ 2.18 ล้านบาท/คน/ปี ชาวนอร์เวย์ต้อนรับสินค้าจากต่างประเทศที่มีความโดดเด่นที่ไม่สามารถหาได้ในท้องถิ่น และสินค้าอาหารเกษตรอินทรีย์ยังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในตลาดนี้ด้วย การจัดหาใบรับรองอื่นๆ ด้านรักษ์สังคม และสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากลสามารถสร้างความได้เปรียบทางการค้าได้ ใบรับรองที่ผู้นำเข้าตลาดนอร์เวย์ยอมรับ เช่น Debio ตราเครื่องหมายเกษตรอินทรีย์สำหรับสินค้าอาหาร และ Nordic swan (Nordic Ecolabel) ตราเครื่องหมายเกษตรอินทรีย์สำหรับสินค้าไม่ใช่อาหาร เป็นต้น
  2. ในช่วงภาวะเงินเฟ้อที่ราคาสินค้าอาหารเพิ่มสูงขึ้นนี้ คาดว่าการจับจ่ายซื้อของในร้านค้าปลีก discount store จะเพิ่มสูงมากขึ้น รวมทั้งสินค้ากลุ่ม private brands ที่มีราคาต่ำกว่าสินค้าทั่วไปคาดว่าจะมีการซื้อขายเพิ่มมากขึ้นด้วย ร้านค้าปลีกซูปเปอร์มาร์เก็ต discount store ในนอร์เวย์ เช่น Rema1000 (ช่องทางการเข้าถึง www.rema.no) และ KIWI (ช่องทางการเข้าถึง https://www.norgesgruppen.no/norgesgruppen-in-english/supplier-to-norgesgruppen/)
OMD KM

FREE
VIEW